Saturday, August 29, 2009

เนื้อเรื่องย่อ





สิทธารถะเป็นบุตรแห่งพราหมณ์ เขามีเพื่อนรักคนหนึ่งคือ โควินทะ พวกเขาต้องการแสวงหาทางหลุดพ้นในชีวิตจึงตัดสินใจบวชเป็นสมณะ ซึ่งมีวิถีปฏิบัติแตกต่างจากผู้คนทั่วไป เช่น ในหนึ่งวันพวกเขากินข้าวเพียงหนึ่งมื้อเท่านั้น พวกเขายึดถือตามหลักปฏิบัติของเหล่าสมณะหากแต่หนทางนี้ไม่สามารถให้คำตอบแก่พวกเขาได้ เขาจึงแสวงหาวิถีทางใหม่ที่จะให้คำตอบแก่พวกเขา จนกระทั่งพวกเขาได้พบกับพระพุทธองค์ ได้ฟังหลักธรรมอริยสัจ 4 ทำให้โควินทะและสิทธารถะเลื่อมใสศรัทธาในหลักคำสอน หากแต่สิทธารถะต้องการแสวงหาหนทางพ้นทุกข์ด้วยตัวเอง ซึ่งเขาเชื่อว่าการสอนไม่สามารถนำพาผู้คนไปสู่หนทางดับทุกข์ได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ชีวิตในเมืองเพื่อแสวงหาแนวทางด้วยตัวเอง สิทธารถะได้เจอกับนางกมลา เธอเป็นหญิงงามเมืองซึ่งกลายมาเป็นครูของสิทธารถะสอนเรื่องราวความรักของปุถุชนทั่วไป อีกทั้งเขาได้รู้จักกับกามะสวามีพ่อค้าผู้มั่งคั่ง สิทธารถะได้เรียนรู้วิธีการค้าขายจากเขา สภาพแวดล้อมนี้ส่งผลให้เขาเหมือนเช่นคนอื่นๆในสังคมเขาตกอยู่ในวัฏสงสาร ความอดทน อดกลั้น ความคิดสิ่งเหล่านี้ได้เลือนหายไปจากตัวของสิทธารถะแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกจากเมืองเข้าป่า จนกระทั่งถึงริมแม่น้ำแห่งหนึ่งเขาตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่และที่นี้เองที่ทำให้เขาได้พบกับวสุเทวาชายแจวเรือ เขาสอนให้สิทธารถะเรียนรู้จากแม่น้ำ ริมแม่น้ำแห่งนี้ทำให้เขาได้พบกับได้พบกมาลาอีกครั้งพร้อมบุตรชายของเขา เนื่องจากนางและบุตรต้องการไปหาพระพุทธเจ้าที่ใกล้ปรินิพพาน แต่นางกมาลาได้สิ้นใจลง เพราะถูกงูกัด ทำให้สิทธารถะเศร้าใจแต่ความทุกข์ของเขาบรรเทาลงเพราะบุตรชายของเขามาแทนที่ความทุกข์นั้น บุตรของเขาเคยมีชีวิตที่สุขสบายดังนั้นเขาจึงปฏิเสธวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบนี้ แต่สิทธารถะหวังว่าสักวันความเมตตาของเขาจะชนะใจบุตร สุดท้ายบุตรของเขาหนีจากเขากลับเข้าเมือง สิทธารถะปล่อยให้บุตรของเขามีวิถีทางเป็นของตัวเอง เขาหันกลับมาเรียนรู้ค้นหาคำตอบจากแม่น้ำจนค้นพบความหมายที่แท้จริงของชีวิต
ในบทสนทนาระหว่างสิทธารถะกับโควินทะ สิทธารถะได้อธิบายถึงสิ่งที่เขาได้เรียนรู้และบอกกับโควินทะว่า เขาได้บรรลุแล้วและอธิบายถึงความจริงที่นั้น วรรณกรรมเรื่อนี้จบลงด้วยฉากที่สิทธารถะได้พบกับโควินทะอีกครั้ง และอธิบายว่าการตรัสรู้ไม่สามารถสอนได้ เขาชี้แนะและจูบที่หน้าผากของโควินทะ นั่นทำให้โควินทะบรรลุได้ในที่สุด

No comments:

Post a Comment